โรคมือเท้าปาก (Hand, Foot and Mouth Disease – HFMD) เป็นโรคติดต่อที่พบบ่อยในเด็กเล็ก โดยเฉพาะช่วงอายุต่ำกว่า 5 ปี ในประเทศไทยมักพบการระบาดในช่วงฤดูฝน (มิถุนายน-สิงหาคม) และช่วงเปิดเทอม บทความนี้จะให้ข้อมูลครบทุกด้านเกี่ยวกับโรคนี้
1. รู้จักโรคมือเท้าปาก
1.1 สาเหตุของโรค
เกิดจาก เชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโรไวรัส (Enterovirus) สายพันธุ์ที่พบบ่อย:
- Coxsackievirus A16 (อาการไม่รุนแรง)
- Enterovirus 71 (EV71) (อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง)
1.2 วิธีการติดต่อ
- ทางตรง: สัมผัสน้ำลาย น้ำมูก หรืออุจจาระผู้ติดเชื้อ
- ทางอ้อม: ผ่านของเล่น เครื่องใช้ หรือพื้นผิวที่ปนเปื้อนเชื้อ
- ระยะฟักตัว: 3-7 วันหลังได้รับเชื้อ
2. อาการของโรคมือเท้าปาก
2.1 อาการเบื้องต้น
- มีไข้สูง 38-39°C
- เจ็บคอ
- อ่อนเพลีย
- เบื่ออาหาร
2.2 อาการเฉพาะ
หลังจากมีไข้ 1-2 วัน จะพบ:
- แผลในปาก (ลิ้น กระพุ้งแก้ม) คล้ายร้อนใน
- ผื่นแดงหรือตุ่มน้ำ ที่มือ เท้า และบางครั้งที่ก้น
- เด็กเล็กอาจน้ำลายไหลเพราะเจ็บปาก
2.3 อาการที่ต้องรีบพบแพทย์
- ซึมลง
- อาเจียนบ่อย
- หายใจเร็ว
- กระตุกหรือชัก
- ตัวเย็น มือเท้าเย็น
3. การรักษาและดูแล
3.1 การรักษาตามอาการ
- ลดไข้: ยาพาราเซตามอล ห้ามใช้แอสไพริน
- บรรเทาปวดแผลในปาก: ยาชาเฉพาะที่
- ป้องกันขาดน้ำ: ดื่มน้ำบ่อยๆ น้ำเย็น ไอศกรีม
3.2 อาหารที่เหมาะสม
- อาหารอ่อนๆ เช่น โจ๊ก นมเย็น
- หลีกเลี่ยงอาหารร้อนหรือรสจัด
3.3 การทำความสะอาด
- ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่
- ทำความสะอาดของเล่นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
- แยกของใช้ส่วนตัว
4. การป้องกันโรค
4.1 สำหรับผู้ปกครอง
- ฝึกเด็กให้ล้างมือก่อนกินอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ
- หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปสถานที่แออัดในช่วงระบาด
- ทำความสะอาดบ้านและของเล่นเป็นประจำ
4.2 สำหรับโรงเรียน
- คัดกรองเด็กทุกเช้า
- แจ้งผู้ปกครองเมื่อพบผู้ป่วย
- ปิดห้องเรียนทำความสะอาดหากพบการระบาด
4.3 วัคซีนป้องกัน
ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกัน EV71 ในบางประเทศ แต่ยังไม่มีการใช้อย่างแพร่หลายในไทย
5. ข้อมูลสำคัญสำหรับผู้ปกครอง
5.1 ระยะเวลาการติดต่อ
เด็กสามารถแพร่เชื้อได้มากที่สุดใน สัปดาห์แรก ของการป่วย แต่ไวรัสอาจอยู่ในอุจจาระได้นานถึง 4-8 สัปดาห์
5.2 เมื่อไหร่ที่เด็กสามารถกลับไปโรงเรียนได้?
ควรหยุดเรียนจนกว่าจะหายเป็นปกติ และไม่มีตุ่มน้ำใหม่ขึ้นอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
5.3 ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิด
- สมองอักเสว (พบในกรณีที่เกิดจาก EV71)
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
6. ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับโรคมือเท้าปาก
6.1 “เป็นแล้วจะไม่เป็นอีก”
❌ ไม่จริง: สามารถเป็นซ้ำได้จากสายพันธุ์อื่น
6.2 “เฉพาะเด็กเล็กเท่านั้นที่เป็น”
❌ ไม่จริง: ผู้ใหญ่ก็เป็นได้ แต่ส่วนใหญ่อาการน้อยกว่า
6.3 “ต้องมีผื่นทั้งมือ เท้า และปาก”
❌ ไม่จริง: บางรายอาจมีผื่นเพียงที่เดียว
7. สถานการณ์โรคมือเท้าปากในไทย
7.1 สถิติล่าสุด
- พบผู้ป่วย ปีละ 50,000-70,000 ราย
- ส่วนใหญ่เป็นเด็ก อายุ 1-3 ปี
- พบการระบาดใน ศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาล
7.2 พื้นที่เสี่ยง
- กทม. และปริมณฑล
- จังหวัดที่มีศูนย์เด็กเล็กหนาแน่น
8. แผนปฏิบัติการเมื่อพบการระบาด
8.1 สำหรับครอบครัว
- แยกเด็กป่วย
- ทำความสะอาดบ้านอย่างทั่วถึง
- สังเกตอาการสมาชิกคนอื่นๆ
8.2 สำหรับโรงเรียน
- แจ้งหน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่น
- ทำความสะอาดพื้นที่ร่วม
- ให้ความรู้ผู้ปกครอง
9. คำถามที่พบบ่อย
9.1 โรคนี้รุนแรงแค่ไหน?
ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรงและหายเองใน 7-10 วัน แต่ประมาณ 1% อาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
9.2 ควรพาเด็กไปพบแพทย์เมื่อไหร่?
เมื่อมีไข้สูงมากกว่า 3 วัน หรือมีอาการแทรกซ้อนเช่น ซึม อาเจียน
9.3 ทำไมโรคนี้ถึงพบในเด็กเล็กมากกว่า?
เพราะเด็กยังมีภูมิต้านทานน้อยและสุขอนามัยยังไม่ดีพอ
10. สรุป: วิธีรับมือโรคมือเท้าปาก
- ป้องกัน ด้วยการรักษาสุขอนามัย
- สังเกตอาการ อย่างใกล้ชิด
- ดูแลรักษา ตามคำแนะนำแพทย์
- ควบคุมการระบาด ในชุมชน
โรคมือเท้าปากเป็นโรคที่พ่อแม่และครูไม่ควรมองข้าม การรู้เท่าทันและป้องกันอย่างถูกวิธีจะช่วยลดความเสี่ยงและความรุนแรงของโรคได้
ข้อมูลอ้างอิง:
- กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
- สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย
- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ (CDC)